วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Orchestra(4)

Symphony Orchestra
Concerto Orchestra
Opera Orchestra
Simphonic Poem
Ballet


Orchestra(3)

 











บทเพลงที่ใช้ในวงออร์เคสตรา
                ซิมโฟนี (Symphony)
                เป็นบทเพลงต้นแบบของเพลงประเภทต่างๆ ที่ใช้บรรเลงสำหรับวงซิมโฟนีออร์เคสตรา ซึ่ง นิยมในยุคคลาสสิก (1750-1820) ส่วนใหญ่ประพันธ์โดยไฮเดิน (106 บท) โมซาร์ท (ประมาณ 50 บท) ในยุคโรแมนติกเป็นบทเพลงที่มีความไพเราะ สง่างามและแสดงออกถึงอารมณ์ จิตวิญญาณของดนตรีในยุคผู้ประพันธ์ที่สำคัญ เช่น ชูเบิร์ต ชูมานน์ เป็นต้น ซิมโฟนีโดยปกติ ประกอบด้วย 3-4ท่อน โดยรูปแบบจังหวะแต่ละท่อนเป็นเร็ว-ช้า-เร็ว หรือ เร็ว-ช้า-เร็ว  ปานกลาง-เร็ว
                คอนแชร์โต (Concerto)
                เป็นบทเพลงสำหรับเครื่องดนตรีเดี่ยวเพื่อแสดงฝีมือของผู้บรรเลงร่วมบรรเลงกับวงออร์เคสตรา เกิดขึ้นในยุคบาโรกและมีแบบแผนที่เป็นมาตรฐานในยุคคลาสสิก ด้านรูปแบบมีลักษณะคล้ายกับซิมโฟนีแต่มีเพียง 3 ท่อน ประกอบด้วย เร็ว-ช้า-เร็ว คอนแชร์โตที่นิยม คือ เปียโนคอนแชร์โตและไวโอลินคอนแชร์โต
                โอเปรา (Opera)
                เป็นละครเพลงร้องที่ใช้วงออร์เคสตราในการบรรเลงดนตรีประกอบ และดำเนินเรื่องใช้การร้องเป็นหลัก โอเปราแบ่งได้ 2 ประเภท คือ โอเปรา ซีเรีย (Opera Seria) เป็นเรื่องราว  เกี่ยวกับชนชั้นสูง เนื้อหาเกี่ยวกับโศกนาฏกรรม ความรัก และโอเปรา ชวนหัว (Comic Opera, Opera buffa) เนื้อหาเป็นเรื่องสามัญชนทั่วไป แนวสนุกสนาน ตลกขบขัน ดำเนินเรื่องรวดเร็ว
                บางโอกาสอาจมีโอเปราอีก 2 ประเภท คือ โอเปเรตตา (Operetta) เป็นโอเปราขนาดเล็ก มีแนวสนุกสนานทันสมัย ใช้การพูดแทนการร้องในบทสนทนา และคอนทินิวอัสโอเปรา (Continuous Opera) เป็นโอเปราที่ใช้ดนตรีเชื่อมโยงเรื่องราวตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ


                ดนตรีบรรยายเรื่องราว (Simphonic poem)
                เป็นบทเพลงที่ใช้เสียงดนตรีสื่อความหมายต่างๆ หรือเล่าเรื่องราวตามความมุ่งหมายของ ผู้ประพันธ์ ซึ่งอาจเป็นการเล่าเรื่องราว หรือบรรยายภาพในลักษณะการเลียนเสียงธรรมชาติ เช่น    น้ำไหล นกร้อง เป็นต้น บทเพลงประเภทนี้จะสื่ออารมณ์ความรู้สึกอย่างชัดเจน เกิดขึ้นใน ยุคโรแมนติกและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
                 
              บัลเลต์ (Ballet)
                    เป็นบทเพลงที่ใช้สำหรับประกอบการแสดงละครคล้าย  โอเปรา  แต่ไม่มีบทร้อง  ผู้แสดง
ใช้การเต้นบรรยายแทนการสนทนา ผู้ประดิษฐ์ท่าทางมีความสำคัญมากเพราะต้องสื่อเนื้อหาที่เข้ากับดนตรีและเนื้อเรื่อง ดนตรีบัลเลต์จัดเป็นดนตรีที่บรรเลงด้วยวงออร์เคสตร้าที่มีความไพเราะสามารถฟังได้โดยไม่ต้องมีการแสดงประกอบแต่ประการใด


วันอังคารที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2555

Orchestra(2)




วงออร์เคสตราในปัจจุบันหรือวงออร์เคสตราสมัยศตวรรษที่ 20 (The Twentieth Century Orchestra)
มีความแตกต่างกันไปตามสภาพสังคม และเศรษฐกิจรวมทั้งจุดมุ่งหมายการบรรเลงเพลงด้วย แบ่งได้เป็น
2 ลักษณะ คือ ขนาดเล็กผู้บรรเลงไม่เกิน60 คน และขนาดใหญ่ผู้บรรเลงประมาณ
80-100 คน โดยคำนึงถึงความกลมกลืน และความสมดุลของเสียงเครื่องดนตรีแต่ละกลุ่ม
ในการจัดกลุ่มเครื่องดนตรี นิยมให้เครื่องสายอยู่ด้านหน้าสุด ส่วนเครื่องตีและเครื่องลมทองเหลือง
อยู่ด้านหลังบริเวณกลางจะเป็นเครื่องลมไม้ ดังนี้
กลุ่มเครื่องสาย        ไวโอลิน1 18 เครื่อง  ไวโอลิน2 15 เครื่อง วิโอลา12 เครื่อง 
                                เชลโล12 เครื่อง  ดับเบิลเบส12 เครื่อง

กลุ่มเครื่องลมไม้     ฟลูต3 เครื่องปิกโกโล 1 เครื่อง  โอโบ3 เครื่อง  อิงลิชฮอร์น 1 เครื่อง
                                คลาริเน็ต 3 เครื่อง เบสคลาริเน็ต 1 เครื่อง บาสซูน 3 เครื่อง
                                ดับเบิลบาสซูน 1 เครื่อง
กลุ่มเครื่องลมทองเหลือง     ฮอร์น4-6 เครื่อง  ทรัมเป็ต 4 เครื่อง  ทรอมโบน3 เครื่อง  ทูบา1 เครื่อง
กลุ่มเครื่องตีกลอง                ทิมปานี 1 ชุด  กลองใหญ่ กลองเล็ก ไซโลโฟนสามเหลี่ยม 
                                             ฉาบแทมโบริน (ใช้ผู้เล่น 2-4 คน)




จัดทำโดย  กวีย์ภพ เสโลห์ 530612067
                  ณัฐชฎา สุดแก้ว 520612127
                  sec801